ในการดำเนินธุรกิจทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันสูงขึ้น เทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆดีขึ้น นโยบายของรัฐบาลที่มีผลกระทบต่อธุรกิจ นโยบายความร่วมมือระหว่างประเทศ ราคาวัตถุดิบสูงขึ้น ราคาน้ำมันแพงขึ้น ข้อกำหนดและมาตรฐานสินค้าต่างๆมากขึ้น ฯลฯ
ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ หากผู้บริหารไม่สามารถปรับตัวได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น หรือไม่สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ การดำเนินธุรกิจของท่านก็อาจจะประสบกับปัญหา และที่สำคัญ ถ้าไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีก็จะมีผลให้กำไรลดลงหรือขาดทุนได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้ทัน ผู้บริหารจะต้องมีการ วางแผนธุรกิจ ภายใต้ข้อมูล ทรัพยากรที่มีอยู่ และกฏ ระเบียบต่างๆ ด้วย แผนธุรกิจควรจะมีทั้งแผนระยะสั้น ระยะปานกลาง และระยะยาว โดยที่แผนระยะสั้นเป็นการวางแผนภายใน 1 ปีซึ่งอาจจะมุ่งเน้นในการพัฒนาคุณภาพสินค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขัน การลดต้นทุนและ/หรือเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ เป็นต้น
นอกจากนี้ในการเขียนแผนธุรกิจควรจะประกอบไปด้วย ข้อมูลของกิจการ ข้อมูลของอุตสาหกรรม คู่แข่ง และแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งจะนำสู่การวิเคราะห์ความเป็นไปได้ด้านการตลาด ความเป็นไปได้ด้านการเงิน ความเป็นไปได้ด้านการผลิต การวางแผนการบริหารจัดการ การวิเคราะห์SWOT Analysis การวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง และการป้องกันความเสี่ยง
ในการวิเคราะห์ SWOT Analysis แบ่งเป็น การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ซึ่งสามารถแบ่งการพิจารณาได้ดังนี้
การวิเคราะห์ปัจจัยภายใน
ปัจจัยการพิจารณา | จุดแข็ง(Strengths) | จุดอ่อน(Weakness) |
ด้านการบริหารจัดการ | ||
ด้านการตลาด | ||
ด้านการผลิต | ||
ด้านการเงิน |
การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก
ปัจจัยการพิจารณา | โอกาส(Opportumities) | อุปสรรค(Threats) |
ตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย | ||
สถานการณ์การแข่งขัน | ||
เทคโนโลยี | ||
กฎ ระเบียบ อื่นๆ |
ในการวิเคราะห์ดังกล่าวอาจจะแบ่งเป็นหัวข้อย่อยลงไปได้อีก ซึ่งผู้บริหารสามารถนำไปใช้ปรับปรุงการบริหารงานในแต่ละด้านได้เป็นอย่างดี หรืออาจจะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ หรือมาตรการที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น การเปิดเสรีทางการค้าอาเซียน (ASEAN ECONOMIC COMMUNITY) เป็นต้น
สำหรับแผนธุรกิจระยะปานกลางเป็นการวางแผนตั้งแต่ 1-3 ปี ซึ่งการดำเนินงานตามแผนอาจจะต้องมีระยะเวลาในการดำเนินการที่มากกว่า 1 ปีขึ้นไป เช่นการขยายกำลังการผลิต การเพิ่มสายการผลิตใหม่ซึ่งอาจจะต้องมีการขยายโรงงาน ซื้อเครื่องจักรชุดใหม่ เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือผลิตวัตถุดิบต้นน้ำ การขยายตลาดสู่ต่างประเทศ เป็นต้น
แผนธุรกิจระยะยาวเป็นการวางแผนตั้งแต่ 3-5 ปีขึ้นไป โดยที่แผนระยะยาวเป็นการวางแนวทางการดำเนินงานว่า กิจการจะเติบโตไปในทิศทางใด เช่น กิจการจะเป็นผู้นำตลาดที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด(ซึ่งอาจจะกำหนดว่าไม่ต่ำกว่า.....%) บริษัทจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศภายใน5 ปี เป็นต้น
ในการนำไปสู่เป้าหมายของแผนธุรกิจจะต้องมีการกำหนดแผนงาน กลยุทธ์ และเป้าหมายของแต่ละหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งจะต้องมีความสอดคล้องทั้งการดำเนินงาน แผนกำลังคน และแผนการเงิน โดยจะต้องกำหนดระยะเวลาดำเนินงานไว้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้แผนธุรกิจจะต้องสอดรับกัน โดยที่แผนระยะยะสั้นจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนะระยะปานกลาง และแผนระยะปานกลางจะต้องมุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของแผนระยะยาว
ในการจัดทำแผนธุรกิจมักจะมีคำถามว่า ทำแผนธุรกิจไปทำไม มีประโยชน์อย่างไร ยุ่งยาก เสียเวลาและไม่เห็นว่าจะนำไปใช้ได้จริง
คำถามเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึง การมองแผนธุรกิจเป็นเพียงแค่แผนงานบนกระดาษเท่านั้น แต่สำหรับผู้ที่เห็นความสำคัญของแผนธุรกิจจะเห็นว่า แผนธุรกิจเป็นเครื่องมือที่ช่วยบริหารงานได้เป็นอย่างดี ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ซึ่งหากผู้บริหารเห็นความสำคัญของแผนธุรกิจก็จะ วางแผนธุรกิจ ที่มีความเป็นไปได้สูง
แผนธุรกิจ นอกจากจะนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินงานแล้ว ยังจะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารต่อหน่วยงานภายนอกที่มีส่วนได้-ส่วนเสียกับกิจการด้วย เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน นักลงทุน หรือกรณีที่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศก็จะต้องนำเสนอคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น
ก่อนที่จะนำแผนธุรกิจไปใช้ในการดำเนินงานก็ควรนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการหรือผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาว่าแผนธุรกิจที่นำเสนอมีความเป็นไปได้หรือไม่ ควรปรับปรุง หรือเพิ่มเติมในส่วนใดบ้าง
ในการนำแผนธุรกิจมาเป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไปนั้น ผู้บริหารจะต้องมีการถ่ายทอดแผนลงสู่ผู้ปฎิบัติ โดยทุกส่วนงานจะต้องมุ่งเน้นเป้าหมายเดียวกัน และจะต้องช่วยกันดำเนินงานตามาแผนงานที่ตนรับผิดชอบให้สอดคล้องกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายตามแผนธุรกิจและตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม เมื่อดำเนินงานไปตามแผนก็อาจจะมีปัญหา อุปสรรคที่เกิดจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกที่ทำให้การดำเนินงานไม่เป็นไปตามแผน ดังนั้น ผู้บริหารอาจจะต้องมีการทบทวนแผนงาน หาสาเหตุ ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข เพื่อปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายต่อไป
แผนธุรกิจเป็นจุดเริ่มต้นที่จะบอกผู้บริหารว่า ทิศทางในการดำเนินงานของกิจการจะต้องดำเนินการอย่างไร ใช้กำลังคนเท่าไหร่ ต้องใช้กำลังเงิน ทรัพยากรต่างๆเท่าไหร่ และจะก่อให้เกิดรายได้ ผลผลิตต่างๆ รวมถึงก่อให้เกิดกำไรมากน้อยเพียงใดให้แก่กิจการ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความเข้มแข็งและมีศักยภาพในการแข่งขัน สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน ซึ่งภายใต้สถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ ผู้บริหารก็จะสามารถปรับตัวได้ทัน และดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง
แผนธุรกิจที่ดีจะต้องเป็นแผนธุรกิจที่สามารถนำไปใช้ได้จริง และมีการนำไปใช้ในการดำเนินงานจริง ดังนั้น ท่านเพียงแต่เริ่มต้นเขียนแผนธุรกิจ ท่านก็ได้เปรียบคู่แข่งขันแล้ว
ที่มาจาก สสว.